|

กล่าวถึงทาเคดะชินเก็น เขาเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1521 ที่แคว้นคาอิ
เป็นบุตรชายคนโตของ ทาเคดะ โนบุโทระ ชื่อเดิมของเขาคือ ทาเคดะ
ฮารุโนบุ จนกระทั่งเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่
จึงเปลี่ยนเป็นทาเคดะชินเก็น
และภายหลังชื่อนี้ก็กลายเป็นชื่อที่ครั้นคร้ามไปทั่วแผ่นดินเป็นเวลากว่าครึ่งทศวรรษ
เขาได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองตระกูลทาเคดะ
หลังจากการลงจากตำแหน่งของบิดา
โดยได้จับมือเป็นพันธมิตรกับอิมากาว่า โยชิโมโตะ
และมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
จากนั้นเขาก็ใช้ความสามารถของตนในการนำกองทัพและวางกลยุทธ์จนสามารถยึดดินแดนชินาโนะมาอยู่ในปกครองได้ทั้งหมดในปี
ค.ศ. 1551 ด้วยอายุเพียง 30 ปี
หลังจากเป็นผู้ปกครองชินาโนะและคาอิได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ชินเก็นก็เริ่มทำการจัดตั้งระบบนักรบชาวนา หรือ “อาชิงารุ”
ให้กับกองทัพของเขา
|
 |
เนื่องมาจากพื้นที่ส่วนใหญ่ในปกครองของตระกูลทาเคดะนั้นทำการเพาะปลูกได้ยาก
เพื่อเพื่มพูนผลผลิต ชินเก็นจึงได้ริเริ่มนำเอาทหารมาช่วยทำนา
ซึ่งผลจากการเอาทหารมาช่วยทำนานี้ยังทำให้นำไปประยุกต์ด้วยการฝึกชาวนาให้เป็นทหารอีกด้วย
และในที่สุดตระกูลทาเคดะก็ได้สร้างกองทัพรูปแบบเฉพาะของตนเองขึ้นนั่นคือกองกองทัพ"อาชิงารุ"
ซึ่งก็คือระบบการนำชาวนามาเกณฑ์เป็นทหารทำให้ไม่ต้องเสียค่าจ้างแพงเหมือนกับกองทัพอื่นที่ต้องอาศัยซามูไร
แต่ข้อเสียอยู่ตรงที่กองกำลังแบบนี้จะไม่ได้มีความภักดีต่อเจ้านายนัก
และสามารถหนีทัพได้ง่ายๆ
แต่สำหรับกองทัพอาชิงารุแห่งดินแดนคาอิของทาเคดะ ชินเก็นแล้ว
ถือเป็นกรณีที่แตกต่างออกไป
กองทัพแห่งคาอิได้ชื่อว่าเป็นกองทัพที่มีระเบียบวินัยแข็งขันที่สุดแคว้นหนึ่งในญี่ปุ่น
และกองทัพของชินเก็นยังได้รับการฝึกฝนวิชาการรบบนหลังม้าอย่างหนักหน่วง
ชินเก็นเองก็เป็นนักวางกลยุทธ์ที่เชี่ยวชาญในด้านการบัญชาทัพม้าอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ กองทัพตระกูลทาเคดะ
จึงได้ชื่อว่าเป็นกองทัพม้าที่แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น
และชินเก็นก็กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะของแม่ทัพผู้เชี่ยวชาญในการวางกลยุทธ์และบัญชาการกองทัพม้า
จนได้รับฉายาว่า พยัคฆ์แห่งคาอิ (Tiger of Kai)
และพยัคฆ์ร้ายตัวนี้
ก็มีคู่ปรับที่มีความร้ายกาจสมน้ำสมเนื้อกันอยู่หนึ่งคน
นั่นคืออุเอสึงิ เคนชิน (Uetsugi Kenshin)
หรือที่ผู้คนเรียกว่า “มังกรแห่งเอจิโกะ” (Dragon of Echigo)
ไดเมียวผู้ปกครองดินแดนเอจิโกะ
|
 |
สำหรับพยัคฆ์และมังกรทั้งสองนั้น ได้ต่อสู้ ปะทะกันหลายครั้ง
โดยเปิดศึกกันที่คาวานากาจิม่า ถึง 5 ครั้ง ในปี 1554
,55,57,61,64 แต่ก็ไม่รู้ผลแพ้ชนะอย่างเด็ดขาดสักครั้ง
และทั้งสองฝ่ายต่างก็สู้อย่างให้เกียรติกัน
สมกับเป็นชายชาตินักรบ
จนการต่อสู้ของทั้งสองถูกเล่าขานมายุคปัจจุบันว่าเป็นศึกของพยัคฆ์และมังกร
ย้อนกลับมาถึงผลจากการเผาวัดฮิเอของโนบุนางะ
เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชินเก็นอย่างมาก
ในช่วงปลายปีของค.ศ. 1572 ชินเก็นจึงนำกองทัพ 3 หมื่น
ด้วยตนเอง เพื่อบุกไปปราสาทฮามามัตสึ
ที่อิเอยาสึเป็นผู้เฝ้าอยู่ ด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
แล้วยังส่งยามางาตะ มาซาคาเงะ
แม่ทัพคนสำคัญไปหาอาซากุระและอาซาอิเพื่อให้ร่วมวางแผนในการปราบโนบุนางะในครั้งนี้ด้วย
ฝ่ายอิเอยาสึมีกองทัพอยู่ราว 1 หมื่น
เขาจึงตัดสินใจรบยืดเยื้ออยู่ในปราสาท
เพื่อรอให้ทัพหนุนของโนบุนางะมาช่วย
แต่ทางโนบุนางะก็ยังติดพันอยู่กับการคุมเชิงอาซาอิ
และอาซากุระอยู่ การส่งกำลังไปช่วยจึงทำได้เพียงไม่มากนัก
นอกจากนี้โนบุนางะยังอ่านออกว่าผู้ที่รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการบุกมาของชินเก็นในครั้งนี้ก็คือวัดฮอนกันจิที่อยู่ภายใต้การนำของสังฆราชเคนเนีย
ซึ่งก็พร้อมจะเคลื่อนพลพระนักรบเข้าสมทบกับกองทัพอาซาอิและอาซากุระเข้ารุกอยู่ทุกเมื่อ
โดยการเคลื่อนไหวของเคนเนียแห่งวัดฮอนกันจินั้น
ยังมีผู้สนับสนุนเห็นชอบอยู่เบื้องหลังอีกที
นั่นคือโชกุนอาชิคางะ โยชิอากินั่นเอง
ฝ่ายอิเอยาสึที่ตั้งใจจะใช้แผนการรบโดยตั้งมั่นปกป้องปราสาทนั้น
ได้พบว่ากองทัพของชินเก็นเดินทัพเคลื่อนผ่านปราสาทของตนไป
จึงคาดว่าทัพของชินเก็นจะหลีกเลี่ยงการปะทะกับตน
เพื่อรักษาสภาพไว้ให้บอบช้ำน้อยที่สุด ก่อนจะไปถึงเมืองหลวง
ดังนั้นอิเอยาสึจึงเปลี่ยนแผน
โดยการนำกองทัพทั้งหมดของตนออกจากปราสาทและบุกตีกองทัพของชินเก็นที่ทุ่งมิคาตากาฮาระทันที
เพราะเห็นว่ากองทัพชินเก็นเดินทัพอย่างรีบร้อนและยังขึ้นเนินสูง
หากเข้าตีทางด้านหลังก็จะมีโอกาสทำให้ทัพชินเก็นเสียขบวน
จนถึงขั้นแตกพ่ายได้
แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือสิ่งที่ชินเก็นวางแผนการณ์เอาไว้
เพื่อล่อให้อิเอยาสึยกทัพออกมานอกปราสาท
จนกระทั่งทัพของอิเอยาสึเข้ามาถึงทุ่งมิคาตากาฮาระ
ชินเก็นจึงสั่งกองทัพใช้ค่ายกลเกล็ดปลาเข้าเล่นงานจนกองทัพของอิเอยาสึแตกพ่ายไม่เป็นกระบวน
กระทั่งทัพหนุนของโนบุนางะกว่า 3 พันคนก็ถูกสังหารสิ้น
ส่วนอิเอยาสึนั้นหนีตายกลับมาที่ปราสาทได้
แต่ก็เสียไพร่พลและแม่ทัพนายกองไปกว่าครึ่ง
ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งย่อยยับที่สุดในชีวิตของอิเอยาสึ
และเป็นการตอกย้ำว่า
ผู้ที่คู่ควรที่จะสามารถต่อกรกับพยัคฆ์ไร้พ่าย ทาเคดะ
ชินเก็นได้นั้น ในแผ่นดินนี้มีเพียงสองคนเท่านั้น
หนึ่งคือเทพนักรบ มังกรแห่งเอจิโกะ อุเอสึกิ เคนชิน
ผู้เป็นคู่ปรับตลอดกาล และอีกหนึ่งก็คือ จอมมารฟ้า โอดะ
โนบุนางะ เท่านั้น
|